NewsFEED Channel ได้สรุป 11 อันดับของบริษัทขายตรงที่มีรายได้รวมสูงสุดของประเทศไทยเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา แม้ในปี 2563 ประเทศไทยจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่หลายบริษัทก็อัตราการเติบโตต่อเนื่อง แต่ก็มีอีกหลายบริษัทที่มีรายได้รวมลดลง
ไปดูกันว่า 11 TOP ขายตรงไทยประจำปี 2563 ที่มีรายได้รวมสูงสุดในประเทศที่รวบรวมข้อมูลมาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีค่ายไหนกันบ้าง
เริ่มต้นกันที่ อันดับ 1 บริษัทแอมเวย์ (ประเทศไทย) (Amway) ค่ายขายตรงสัญชาติอเมริกา ที่ครองอันดับ 1 มายาวนาน โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา แอมเวย์ (ประเทศไทย) ได้รับอานิสงส์จากกระแสการหันมาดูแลสุขภาพของผู้บริโภค หลังจากมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน ไม่เพียงเท่านั้นแอมเวย์ ยังคงสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นบริษัทขายตรงที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา แอมเวย์ (ประเทศไทย) มีรายได้รวมที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ที่ 19,499,380,701 บาท เพิ่มขึ้น 3.20% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม 18,893,224,990 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึง 6.06%
อันดับ 2 บริษัทกิฟฟารีน (Giffarine) ค่ายขายตรงสัญชาติไทย ที่ยึดอันดับ 2 มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ในปี 2563 ที่ผ่านมาประเทศไทยจะประสบปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่กิฟฟารีนกลับมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยในปี 2563 ได้รายงานงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไว้ที่ 5,033,665,658 บาท เพิ่มขึ้น 13.77% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม 4,424,373,179 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึง 5.19%
อันดับ 3 บริษัทซูเลียน (ประเทศไทย) (Zhulian) ค่ายขายตรงสัญชาติไทยอีกค่ายหนึ่งที่ครองรายได้รวม เป็นอันดับ 3 มาต่อเนื่อง จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ภาครัฐสั่งล็อกดาวน์ตามพื้นที่ต่างๆ ส่งผลให้รายได้รวมในปี 2563 ที่ผ่านมาลดลงไป โดยซูเลียน (ประเทศไทย) ได้รายงานรายได้รวมไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ที่ 2,829,479,375 บาท ลดลง -17.78% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม 3,441,674,686 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่เติบโต 15.99%
อันดับ 4 บริษัทเลกาซี คอร์ป (Legacy) ค่ายขายตรงสัญชาติไทยอีกค่ายที่ต้องบอกว่า สุดเซอร์ไพร์สอย่างมาก เพราะในปี 2563 ที่ผ่านมา เลกาซี คอร์ป มีการปรับตัวเข้าสู่ยุคออนไลน์เต็มตัว เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งต่างจากเดิมที่ค่ายขายตรงแห่งนี้จะถนัดการทำตลาดแบบออฟไลน์เป็นหลัก ซึ่งการปรับตัวเข้าสู่ตลาดออนไลน์กลับยิ่งทำให้ เลกาซี คอร์ป เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยในปี 2563 ที่ผ่านมาได้รายงานงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,333,757,184 บาท เพิ่มขึ้น 51.65% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม1,538,845,072 เพิ่มขึ้นจากปี 2561 สูงถึง 40.35%
อันดับ 5 บริษัทซัมมิท ควีน (Summit Queen) ค่ายขายตรงจากประเทศญี่ปุ่น แม้ภาพรวมของการเติบโตของค่ายขายตรงแห่งนี้จะลดลง 2 ปีติดต่อกัน เนื่องจากปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจภายในประเทศไทยและการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ ซัมมิท ควีน ก็ยังคงยึดอันดับ 5 บริษัทขายตรงที่มีรายได้รวมสูงสุดของประเทศ โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา ซัมมิท ควีน ได้รายงานงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,104,634,510 บาท ลดลง -15.19% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม 1,302,586,541 บาท ลดลงจากปี 2561 ถึง -17.45%
อันดับ 6 บริษัทจอยแอนด์คอยน์ (Join & Coin) ค่ายขายตรงสัญชาติไทย ที่ต้องบอกว่ายึดอันดับบริษัทขายตรงที่มีรายได้รวมสูงสุดติด 1 ใน 6 ของประเทศมายาวนาน เนื่องจากมีฐานผู้บริโภคกระจายอยู่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างกัมพูชา ซึ่งแม้ในปี 2563 ที่ผ่านมา จอยแอนด์คอยน์ จะยังไม่ได้รายงานงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แต่ในปี 2562 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,234,984,755 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 สูงถึง 12.95%
อันดับ 7 บริษัทซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (Successmor) ค่ายขายตรง (มหาชน) หนึ่งเดียวของไทย บริษัทซัคเซสมอร์ ได้เข้าทำการซื้อขายหุ้น IPO ครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นบริษัทขายตรงของไทยค่ายแรกๆ ที่สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นผลสำเร็จ ซึ่งในช่วงที่ ซัคเซสมอร์ เข้ากระดานซื้อขายหุ้น ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศเกิดการชะลอตัว และได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงทำให้ในปี 2563 ยอดรายได้รวมที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลดลง -7.33% อยู่ที่1,018,962,367 บาท เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,099,602,294 บาท
อันดับ 8 บริษัทนู สกิน (Nu Skin) ค่ายขายตรงสัญชาติอเมริกัน ต้องบอกว่านู สกิน เป็นบริษัทขายตรงระดับแถวหน้าของประเทศไทยมียอดขายทะลุหลักพันล้านบาททุกปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขยายฐานผู้บริโภคครอบคลุมทุกจังหวัดของประเทศ โดยในปี 2563 นู สกิน ยังไม่ได้รายงานงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แต่หากเทียบกับรายได้รวมที่แจ้งไว้เมื่อปี 2562 อยู่ที่ 1,224,663,470 บาท
อันดับ 9 บริษัทยูนิซิตี้ (Unicity) ค่ายขายตรงสัญชาติอเมริกา เป็นอีกขายตรงค่ายหนึ่งที่เป็นที่รู้จักของคนในแวดวงธุรกิจขายตรงเมืองไทย แต่ในช่วงระยะหลัง ยูนิซิตี้ ยอดรายได้รวมลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีหลังรายได้รวมที่ยื่นกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไม่ถึงพันล้านบาท โดยในปี 2563 ยูนิซิตี้ รายงานงบการเงินไว้ที่ 930,710,863 บาท ลดลง -6.54% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม 995,942,888 บาท ลดลงจากปี 2561 ถึง -17.76%
อันดับ 10 บริษัทหมอเส็ง (ไทยแลนด์) (Morseng) ค่ายขายตรงสัญชาติไทย ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในธุรกิจขายตรงเมืองไทย โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา หมอเส็ง (ไทยแลนด์) ก็ถือว่า ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเรื่องของเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน โดยได้รายงานงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไว้ที่ 542,575,552 บาท ลดลง -22.34% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 698,685,575 บาท ลดลงจากปี 2561 ถึง -15.79%
อันดับ 11 บริษัทเจอเนสส์ โกลบอล (Jeunesse) ค่ายขายตรงสัญชาติอเมริกา ในปี 2563 ที่ผ่านมาถือว่าค่ายขายตรงแห่งนี้มีผู้นำยกทีมออกกันหลายครั้งหลายคราว แต่ภาพรวมกับมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น โดยเจอเนสส์ โกลบอล ได้รายงานงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่ามีรายได้รวมอยู่ที่ 488,852,184 บาท เพิ่มขึ้น 2.91% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม 474,987,215 บาท ลดลงจากปี 2561 ถึง -26.20%
