กรกฎาคม 27, 2024

P.T.N. Thailand ธุรกิจเครือข่าย เพื่อคนเครือข่ายตัวจริง

กดแชร์ได้เลยจ้า

นาทีนี้ต้องบอกว่า บริษัท พี.ที.เอ็น. (ประเทศไทย) จำกัด ของ “คุณพสิษฐ์ ศาลาทอง” ประธานบริหาร และ “คุณถาวรีย์ ไสยสิทธิ์” รองประธานบริหาร กลายเป็นบริษัทเครือข่ายขายตรงสัญชาติไทยที่ถูกจับตามองอย่างมาก เพราะด้วยกระแสและจำนวนของสมาชิกที่ประสบความสำเร็จที่มีรายได้หลักหลายแสนต่อเดือนเยอะแยะมากมาย วันนี้ NewsFeed Channel ได้รับเกียรติสัมภาษณ์พิเศษบอสใหญ่ P.T.N. อย่างเป็นกันเองถึงจุดเริ่มต้นและของบริษัท

**สร้างธุรกิจเครือข่าย เพื่อคนเครือข่าย

แนวคิดการเปิดบริษัทนี้ขึ้นมา เพื่อให้สมาชิกและผู้นำมีที่อยู่ ที่ทำกิน ที่มั่นคง โดยไม่ต้องกังวลว่าบริษัทจะเปิดหนี ซึ่งการที่บริษัทจะเติบโตได้ไม่ได้อยู่ที่ประธานผู้ก่อตั้งเป็นหลัก แต่อยู่ที่สมาชิกและผู้บริหารที่จะมาช่วยกันทำบ้านหลังนี้ให้เติบโต เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการออกแบบธุรกิจนี้ว่า ต้องการให้ธุรกิจเติบโตแบบไหน เพราะส่วนตัวมองว่า ถ้าสมาชิกและผู้บริหารอยู่ได้ บริษัทก็อยู่ได้

            การที่ผมเคยทำทีมในธุรกิจเครือข่ายมาก่อน เริ่มจากการเป็นสมาชิกธรรมดาคนหนึ่ง พัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นผู้นำ จากนั้นก็พัฒนามาเป็นผู้บริหาร และเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทเครือข่ายหลายๆ ค่ายมาแล้ว ทำให้รู้ว่า คนเครือข่ายต้องการอะไร ไม่อยากเจอกับอะไรบ้าง ผมจึงบอกกับสมาชิกทุกคนว่า “ที่นาแปลงนี้ ไม่ได้เก็บค่าเช่า ทุกคนสามารถมาทำกินบนที่นาตรงนี้ได้ แต่เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วแบ่งข้าวให้ผมกินบ้าง”

**จุดเริ่มต้นธุรกิจ P.T.N. Thailand

            ธุรกิจเครือข่ายเป็นอาชีพที่ผมรักมาก แต่เท่าที่อยู่ในธุรกิจนี้มามากกว่า 30 ปี ทำให้รู้ว่าปัญหาที่หลายบริษัทมักอยู่ได้ไม่นาน เพราะเจ้าของเอาเงินออกนอกระบบ เช่น เอาเงินไปซื้อรถให้เมียน้อยบ้าง เอาเงินไปซื้อบ้านบ้าง หรือเอาเงินไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่มาต่อยอดธุรกิจ หรือไม่ก็เจ้าของมีหลายหุ้น หรือเจ้าสัวดังๆ ที่ไม่เข้าใจธุรกิจเครือข่าย ทำไปไม่นานก็ต้องปิดตัวลง หรือมีปัญหาตามมา ทำให้หลายคนจากที่เคยมีรายได้ ก็ไปผ่อนบ้าน ผ่อนรถ แต่เมื่อธุรกิจมีปัญหา ก็ไม่มีเงินไปจ่ายค่าบ้าน ค่ารถ ทำให้คนที่ทำธุรกิจเครือข่ายเครดิตเสีย เวลาจะไปกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถธนาคารจึงไม่อนุมัติ

            ผมเคยผิดหวังกับธุรกิจเครือข่ายทั้งที่เป็นอาชีพที่ชอบมาก จนทำให้ต้องหยุดพัก จากนั้นก็ผันตัวเองไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรี และธุรกิจประมูลรถส่งออกต่างประเทศ ทำให้ค่อยๆ ฟื้นตัวเองขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เครือข่ายเป็นธุรกิจที่ดี ผมจึงได้นำรูปแบบของเครือข่ายไปใช้ในการบริหารธุรกิจส่วนตัว ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างมาก จากนั้นก็เริ่มมีแนวคิดที่อยากจะกลับมาทำธุรกิจเครือข่ายอีกครั้ง เพราะตอนนั้นผมเห็นเพื่อนๆ น้องๆ ที่รู้จักกันมานาน ยังคงร่อนเร่ไปค่ายนั้นที ไปค่ายนี้ที โดยเมื่อปี 2559 จึงเปิดบริษัท พี.ที.เอ็น. (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นมา

**อุปสรรค เป็นแค่บททดสอบความแข็งแกร่ง

            ในช่วง 2 ปีแรกถือว่าเป็นบททดสอบความแข็งแกร่งอย่างมาก เพราะช่วงนั้นคุณแม่ไม่สบายหนัก ต้องพาคุณแม่ไปหาหมอตลอด เรียกได้ว่า ไม่ได้ทุ่มเทให้กับบริษัทมากนัก เพราะจิตใจจดจ่อกับคุณแม่เป็นหลัก จนกระทั่งท่านเสียจึงเริ่มกลับมารุกธุรกิจอีกครั้ง ควบคู่กับการทำธุรกิจส่วนตัวไปด้วย จากนั้นก็เริ่มมานั่งวางแผนกับทีมผู้บริหารเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต จึงได้ย้ายสำนักงานจากเดิมอยู่ที่ถนนนวมินทร์ มาที่ซอยลาดพร้าว 116 เพื่อให้สมาชิก เดินทางไปมาสะดวกขึ้น

            เมื่อบริษัทย้ายสำนักงานมาอยู่ที่ซอยลาดพร้าว 116 ไม่นาน ก็เกิดวิกฤตโควิด-19 ตามมา ทำให้ P.T.N. ได้รับผลกระทบเหมือนกับทุกบริษัท คือ ไม่สามารถทำการตลาดหรือจัดประชุมตามจังหวัดต่างๆ ได้ แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ในขณะที่หลายบริษัทยอดขายตกลง เพราะจัดประชุมไม่ได้ แต่ P.T.N. Thailand กลับมียอดขายเติบโตสวนกระแส เพราะสมาชิกและผู้นำหันมาทำการตลาดทางออนไลน์ ทำให้มียอดสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับบริษัทเองก็ได้พัฒนาระบบการสั่งซื้อสินค้าแบบทางออนไลน์ และการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว ทำให้ยอดขายในช่วงโควิด-19 เติบโตอย่างมาก

**P.T.N. เครือข่ายสีขาว โปร่งใสตรวจสอบได้

ด้วยแนวคิดที่ว่า “เรามีความตั้งใจสร้างสรรค์ ทำในสิ่งต่างๆ ที่มุ่งหวังไว้ให้เกิดขึ้นให้จงได้ เพื่อให้สมาชิกทุกคนมีอิสรภาพทางการเงินและวลา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า” ดังนั้นนโยบายตั้งแต่วันแรกของ P.T.N. Thailand จึงเน้นธุรกิจเครือข่ายสีขาว โปร่งใสตรวจสอบได้ เริ่มตั้งแต่การจัดตั้งบริษัท โดย P.T.N. Thailand ได้ใบอนุญาตสคบ.ทั้งแบบขายตรง และตลาดแบบตรงตั้งแต่เริ่มต้น เพราะการมีใบอนุญาตถือเป็นด่านแรกที่สร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับสมาชิกและผู้นำ ต่อมา คือ สินค้าต้องมีคุณภาพ มีมาตรฐานและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ อย.ทุกตัว

ส่วนแผนการจ่ายผลตอบแทน เน้นให้สมาชิกทำง่าย ซื้อกาแฟเพียงแค่ 1 กล่อง ราคา 165 บาท ก็สามารถทำธุรกิจกับ P.T.N. Thailand ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทก้าวสู่ปีที่ 5 อย่างมั่นคง มีสมาชิกที่ประสบความสำเร็จเยอะแยะมากมาย หลายคนมีรายได้หลายแสนบาทต่อเดือน ซึ่งนั่นเป็นดัชนีชี้วัดว่า รูปแบบการทำธุรกิจของ P.T.N. Thailand ได้เดินมาถูกต้องและถูกทางแล้ว

“ผมไม่ได้เน้นว่าบริษัทต้องมียอดขายเป็นพันล้าน แต่ผมเน้นช่วยให้สมาชิกประสบความสำเร็จมีรายได้หลักแสนต่อเดือน หลักล้านต่อเดือน เพราะยิ่งช่วยให้สมาชิกประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้บริษัทมีความมั่นคงและยั่งยืน ส่วนกลยุทธ์การตลาดบริษัทจะนำระบบออนไลน์และออฟไลน์มาผสมผสานกัน และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อช่วยให้สมาชิกทำงานง่ายขึ้น เช่น การจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่, การจัดประชุม OPP ตามจังหวัดต่างๆ และการจัดงานแคมป์ เป็นต้น”

ตอกย้ำความมั่นใจให้กับสมาชิกว่า จากนี้ไป P.T.N. Thailand จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมจะเป็นเสาหลักให้กับสมาชิกทุกคน สามารถฝากชีวิตไว้ที่นี่ได้อย่างแน่นอน


กดแชร์ได้เลยจ้า