Synergy ฉลอง 25 ปี รีแบรนด์ใหม่ก้าวสู่ยุค 2.0 ดันไทยติดทำเนียบขายตรงเอเชีย

Synergy WorldWide ฉลองครบ 25 ปี รีแบรนด์ใหม่ก้าวสู่ยุค Synergy 2.0 ขณะที่บริษัทแม่ประกาศดันไทยสุดตัว กางแผนในอีก 5 ปีข้างหน้าเติบโต 5 เท่า ระบุเตรียมขนทัพสินค้าเกรดพรีเมี่ยมเจาะฐานคนรักสุขภาพ ล่าสุดเปิดศูนย์ Synergy Experience Center ชั้น 2 อาคาร CW Tower บนพื้นที่กว่า 140 ตร.ม. หวังรองรับการเติบโตของนักธุรกิจและผู้บริโภค ด้าน “มร.ไซมอน จึง” ยาหอม ไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตในระดับเอเชีย

มร.เบน มางาเล ผู้ช่วยผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง ประเทศไทย เป็นหนึ่งในธุรกิจเครือข่ายชั้นนำระดับโลกที่มีเครือข่ายธุรกิจกระจายอยู่ทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, แคนาดา, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, เยอรมนี, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, มาเลเซีย, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, สิงคโปร์, สเปน, สวีเดน, ไต้หวัน, เวียดนาม และประเทศไทย เป็นต้น สำหรับไทย ถือเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในส่วนของตลาดเครือข่ายขายตรง จึงเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ ให้ความสนใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดแห่งนี้

“ตลอดระยะเวลากว่า 24 ปีที่ผ่านมา ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้บริโภคในประเทศไทยที่ใส่ใจในด้านสุขภาพทั้งของตัวเอง ครอบครัว หรือแม้แต่คนใกล้ชิด ซึ่งเป็นผลมาจาก ผลิตภัณฑ์ของซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเรายังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติเกือบทั้งหมด โดยได้รับการรับรองมาตรฐานการันตีความน่าเชื่อถือจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ NSF, GMP, TGA, ISO9001, ISO 17025, USDA ORGANIC และ NOT TESTED ON ANIMALS เป็นต้น

มร.เบน มางาเล กล่าวว่า ภายใต้การบริหารงานซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ ที่มีความโดดเด่น คือ เรามีแผนธุรกิจแบบ Dual Linear Mega-Match 100% และการจ่ายผลตอบแทน 7 ช่องทาง ซึ่งเป็นระบบแผนการตลาดที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา สามารถสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว และยั่งยืน รวมทั้งยังเป็นแผนกระจายรายได้ให้กับสมาชิกอย่างเท่าเทียมกันได้มากที่สุด ถือเป็นการสอดรับกับหลักแนวคิดของซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ ที่มีอยู่แล้ว ในเรื่องของการส่งต่อสุขภาพที่ดี ไปพร้อมกับการส่งต่อรายได้ที่ดีให้กับทุกคน นอกจากนี้เรายังมีระบบ Eagle System ที่เข้มแข็ง

สำหรับซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง นั้น ที่ผ่านมามีอัตรการเติบโตอย่างน่าพอใจจากฐานสมาชิกที่มีผู้มาใหม่เข้าสู่ธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซินเนอร์จี้ตั้งเป้าเติบโตอีก 5 เท่าภายใน 5 ปี โดยจะมาจากนักธุรกิจในกลุ่มผู้นำทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น เป้าที่วางไว้สำหรับปี 2022  ยังคงอยู่กับจำนวนสมาชิก ณ ตอนนี้เรามีฐานสมาชิกกว่า 200,000 คน โดยยึดพื้นฐานของการเป็นผู้บริโภคเป็นหลักและผลิตภัณฑ์หลักยังคงเป็น Pro-Argi9 Plus  โปร์อาร์จีไนน์ พลัส , Chlorophyll Plus คลอโรฟิลล์ พลัส, Synergy Bodiguard ซินเนอร์จี้ บอดิการ์ด และ สกินแคร์น้องใหม่ I’amara ลามาร่า

มร.เบน มางาเล กล่าวอีกว่า วันนี้ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ ถือเป็นผู้นำที่เข้มแข็งในธุรกิจเครือข่าย ซึ่งจริงๆ แล้วกลุ่มเป้าหมายของเราในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่ใช่แค่คนที่มีปัญหาสุขภาพ แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนที่ใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองด้วย และเพื่อเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น เรามีแผนในการเข้าถึงกลุ่มเจน Y (Gen Y) เพิ่มขึ้น และเพื่อให้สอดรับกับแผนที่ว่านี้ บริษัทได้สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของตัวเอง ด้วยการปรับโฉมบริษัท ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ไปพร้อมๆ กับการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเป็นไปตามแผนการเติบโตที่ได้วางไว้

ส่วนการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น ซินเนอร์จี้มีแผนการผสมผสานการตลาดในแบบออนไลน์ และออฟไลน์ไว้อย่างลงตัว เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในทุกมิติ เช่นเดียวกับ การตัดสินใจลงทุนเพื่อขยายพื้นที่บริษัท เพิ่มขึ้นเพื่อสร้าง Synergy Experience Center ที่บริเวณชั้น 2 อาคาร CW Tower ซึ่งจะมาทำหน้าที่เป็นศูนย์การดูแลสุขภาพ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย อย่าง เครื่อง Synergy InBody และ เครื่องSynergy 3D Face Analyst มาช่วยวิเคราะห์มวลรวมของสุขภาพในร่างกาย รวมถึงผิวหน้าเพื่อให้ทุกท่านได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการดูแลสุขภาพ รวมถึงรับคำปรึกษาในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วย ถือเป็นอีกเป้าหมายที่ ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง ในวันนี้เพื่อก้าวไปสู่การเป็นธุรกิจเครือข่ายชั้นนำในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างที่สุด

ด้านมร. แดน นอร์แมน รองประธานกรรมการบริหาร และประธานบริหารเอเชีย กล่าวว่า บริษัท เนเจอร์ซันไชน์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของซินเนอร์จี้มีการเติบโตอย่างมั่นคงมากว่า 50 ปี ซึ่งต้องขอบคุณทุกการตอบรับและทุกความท้าทายที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด หรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้บริษัทของเราก้าวหน้า และแข็งแกร่งขึ้นในทุกวัน และมียอดที่เติบโตขึ้นในปีที่ผ่านมาถึง 15.3% ซึ่งในปีนี้ทางซินเนอร์จี้ก็มีความยินดีที่จะเชิญชวนทุกท่านไปเยี่ยมชมต้นกำเนิดซินเนอร์จี้ ที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วย

ขณะที่ มร.ไซมอน จึง ผู้ช่วยผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย เปิดเผยว่า ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ เอเชีย ในหลายปีที่ผ่านมาเรามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมาเราเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 28% โดยปัจจัยความสำเร็จของเรามาจากการนำเสนอโอกาสใหม่ๆ ผู้นำที่มีศักยภาพ รวมถึงแผนการตลาดที่น่าสนใจและดึงดูด โดยประเทศในเอเชียมีสัดส่วนถึง 40% จากยอดขายทั่วโลก ซึ่งกลุ่มประเทศในเอเชียถือว่ามีอัตราการเติบโตอย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน ส่วนไทยเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตน่าสนใจเช่นกัน ดังนั้นหากไทยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่เชื่อว่าจะเติบโตในระดับเอเชียได้อย่างแน่นอน